SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นวิธีการปรับแต่งเว็บไซต์ การปรับแต่งรูปแบบในการเขียนโค๊ด ปรับแต่งความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์ และการเขียนเนื้อหาที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านและเกี่ยวข้องกับธุระกิจหรือสินค้าของคุณเพื่อให้แสดงผลในอันดับต้นๆของเว็บ Search Engine เช่น เว็บ Google, Bing เป็นต้น ซึ่งผลลัพธ์ปรับแต่งเว็บไซต์ของการทำ SEO จะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับอยู่ในลำดับต้นๆ ของผลการค้นหา ด้วยคีย์เวิร์ด (Keyword) หรือคำค้นหาที่คุณต้องการและเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ซึ่งการทำ SEO ที่ดีและได้ผลนั้นเว็บที่ทำ SEO ควรที่จะอยู่หน้าแรกแต่ไม่ควรอยู่เกินหน้าที่ 2 ซึ่งจะได้รับการเข้าเยี่ยมชม บ่อยครั้งมากที่สุด ยิ่งอันดับสูงเท่าไรอัตรการคลิกเข้าสู่เว็บก็สูงขึ้นเท่านั้น
เพื่ออธิบายถึงความสำคัญของการทำ SEO เบื่อต้นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของ 3 คำนี้ก่อน
เสิร์ชเอ็นจินเช่น Google และ Bing ใช้บอทหรือบางครั้งเรียกว่าสไปเดอร์ ในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาทั้งหมดที่พบบนอินเทอร์เน็ต บอททำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเริ่มต้นจากหน้าเว็บที่รู้จักและติดตามลิงก์ภายในไปยังหน้าต่างๆ ภายในเว็บไซต์นั้น ตลอดจนลิงก์ภายนอกที่ไปยังหน้าต่างๆ ในเว็บไซต์อื่นๆ เนื้อหาบนหน้าเหล่านั้น รวมทั้งบริบทของลิงก์ที่ติดตาม ช่วยทำให้บอทที่รวบรวมข้อมูลเข้าใจเนื้อหาว่าแต่ละหน้าเกี่ยวกับอะไร และเชื่อมโยงกับหน้าอื่นๆ ทั้งหมดภายในฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของเสิร์ชเอ็นจิน
เมื่อผู้ใช้พิมพ์หรือพูดคำค้นหาลงในช่องค้นหา เสิร์ชเอ็นจินจะใช้อัลกอริธึมที่ซับซ้อนเพื่อดึงสิ่งที่เชื่อว่าเป็นรายการผลลัพธ์ที่ถูกต้องและมีประโยชน์มากที่สุดสำหรับคำค้นหานั้น ผลการค้นหาแบบออร์แกนิคเหล่านี้อาจรวมถึงหน้าเว็บที่เต็มไปด้วยข้อความ บทความข่าว รูปภาพ วิดีโอ รายชื่อธุรกิจในท้องถิ่น และเนื้อหาเฉพาะประเภทอื่นๆ
มีหลายปัจจัยที่อัลกอริทึมของเสิร์ชเอ็นจินใช้ในการวิเคราะห์ และปัจจัยเหล่านั้นมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ใช้และความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของ AI ซึ่งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในการทำ SEO จัดลำดับความสำคัญไว้ดังนี้:
จากข้อมูลเบื้องต้นจึงนำมาสรุปเป็น เทคนิคการทำ SEO ปี 2023 ตามหัวข้อที่สำคัญได้ดังต่อไปนี้
การเขียนเนื้อหาหรือบทความที่จะใส่ไว้ในเว็บไซต์ของเราเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งหัวใจสำคัญคือการเขียนเนื้อหาใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครเขียนมาก่อนการลอกเลียนแบบเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่นจะไม่เป็นผลดีกับเว็บไซต์ของเราเลยแถมยังทำให้อันดับของเว็บไซต์ตกลงกว่าเดิมอีกด้วย หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ทีจะต้องเอาเนื้อหาจากที่อื่นมาลงควรเขียนให้เครดิตกับเว็บที่เราเอาเนื้อหาบางส่วนมาด้วย ถึงอย่างไรก็ตามแนะนำให้ทำการต้องเขียนเนื้อหาใหม่ขึ้นมาเองจะได้ผลในการทำ SEO ที่ดีที่สุด
การเขียนเนื้อหาที่ดีควรคำนึงถึง คีย์เวิร์ด ที่ต้องการแล้วเขียนเนื้อหาให้ครอบคลุมกับคีย์เวิร์ดที่เราต้องการในทุกมิติ และเนื้อหาที่ดีควรมีคำไม่ต่ำกว่า 700 คำ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดไม่ควรต่ำกว่า 2,000 คำ ซึ่งหากเนื้อหาที่คุณเขียนมีคนเข้ามาอ่านและทำการแชร์เยอะขึ้นเท่าใดอันดับของเว็บไซต์ของคุณก็จะยิ่งดีขึ้น
จงอย่าลืมว่าเนื้อหาที่ดีต้องเขียนให้ถูกหลักการเขียนของแต่ละภาษาของเว็บไซต์นั้นๆ เช่นตัวสะกด คำศัพท์ที่ใช้ ต่างๆเหล่านี้ล้วมมีอิธิพลต่อเนื้อหาที่เราเขียน
กลยุทธ์การจัดวางคีย์เวิร์ดที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการปรับ On-page SEO บนหน้าให้เหมาะสม คุณต้องมีความเข้าใจเป็นอย่างดีเพื่อที่จะวางคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมในตำแหน่งที่ถูกต้อง
รูปภาพเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการทำ SEO ที่คนส่วนใหญ่มองข้ามและไม่ให้ความสนใจ แต่ถ้าปรับให้เหมาะสมแล้ว สิ่งเหล่านี้จะทำให้เว็บไชต์ของคุณมีปริมาณการเข้าชมมากขึ้น ดังนั้นการปรับปรุงประสิทธิภาพ SEO ด้วยรูปภาพจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
บทความด้านล่างจะเป็นเทคนิคในทำ SEO ด้วยรูปภาพ
การที่ผู้อ่านให้เวลาอยู่ที่หน้าเว็บของเราอย่างน้อย 2 นาที ถือเป็นสัญญานที่ดีดังนั้นการเพิ่มเวลาให้คนอยู่ที่เว็บไซต์ของเราให้นานขึ้นจึงเป็นเทคนิคในการทำ SEO อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของเรามีอันดับที่ดีขึ้น
เวลาที่การที่ผู้อ่านใช้เวลาหยุดนิ่งอยู่ที่เว็บไซต์เป็นสัญญาณการจัดอันดับที่ดีสำหรับเสิร์ชเอ็นจิน เช่น Bing และ Google ถึงแม้เวลา Google ไม่ได้ระบุเกี่ยวกับวิธีการคำนวณเวลาหยุดนิ่งสำหรับการที่ผู้อ่านให้เวลาอยู่ที่เว็บไซต์เป็นสัญญาณการจัดอันดับ แต่ว่าประวัติการทำงานของอัลกอริธึมของ Google ได้ใช้เวลาหยุดนิ่งเป็นสัญญาณการจัดอันดับ
การใช้ URL Friendly นอกจากจะเป็นผลดีต่อ SEO แล้วยังช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจได้ด้วยว่า URL ที่ผู้อ่านกำลังอ่านอยู่นี้จะสื่อถึงเรื่องอะไรดังนั้นจึงควรใช้ URL Friendly ให้ถูกต้องด้วย
การเชื่อมโยงภายในของบทความมีความสำคัญมาก เนื่องจากจะสร้างโครงสร้างที่ดีให้กับเว็บไซต์ของคุณ และกระตุ้นให้ผู้อ่านคลิกลิงก์เหล่านั้นเพื่ออ่านบทความหรือเนื้อหาอื่นๆ ในเว็บไซต์ด้วย
ช่วยรักษาอัตราการปิดเว็บในทันทีโดยรวมของเว็บไซต์ของคุณให้ต่ำลง ซึ่งเป็นผลดีสำหรับ SEO ขอยกตัวอย่างการเชื่อมโยงกันของ Wikipedia ซึ่งจะเห็นภาพได้ชีดเจนที่สุด
ลิงก์ไปยังหน้าเนื้อหาที่กล่าวถึง เมื่อคุณกำลังเขียนเนื้อหาบทความให้ใส่ลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนั้น ตัวอย่างเช่น ในบทความนี้ ได้ทำการเชื่อมโยงไปถึง Google Ads ผู้อ่านที่สนใจอยากรู้จัก Google Ads สามารถกดลิงค์เข้าไปได้
ความเร็วในการเปิดเว็บมีผลกับการจัดอันดับของ SEO และยังเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของอัลกอริธึมของกูเกิล นอกเหนือจากมีผลโดยตรงกับอันดับแล้วยังมีผลกับผู้ที่เข้ามายังเว็บไซต์อีกด้วย โดยสถิติแล้วหน้าเว็บไม่ควรใช้เวลาโหลดเกิน 2 วินาที หากเว็บไหนใช้เวลาโหลดถึง 3 วินาทีจำนวนการเข้าซ้ำจะลดลงไปถึง 50% หรือไม่กลับมายังเว็บไซต์นี้อีกเลย
ดังนั้นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีความเร็วที่เพิ่มขึ้นจึงถือเป็นเทคนิคในการทำ SEO ที่สำคัญ
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Title คือส่วนที่เสิร์ชเอ็นจินเอาไปแสดงผลดังนั้นการปรับแต่ง Title จึงเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่สำคัญซึ่งความยาวของ Title ไม่ควรเกิน 71 ตัวอักษร ดังนั้น Title ที่ดีควรมีความกระชับได้ใจความและเกี่ยวข้องกับ คีย์เวิร์ด ที่เราต้องการ
ถึงแม้ว่า Google Guideline ได้บอกว่ากูเกิลไม่ได้ใช้ Description ในการจัดอันดับแล้วแต่ว่าเสิร์ชเอ็นจินเจ้าอื่นยังคงนำ Description มาใช้ในการจัดอันดับอยู่ และกูเกิลยังคงนำ Description มาแสดงบนหน้าผลการค้นหาอยู่ ดังนั้นการปรับแต่ง Description ทีดีจะช่วยเพิ่มยอดการเข้าชมเว็บไซต์ซึ่งเป็นผลดีต่อ SEO แน่นอนเพราะผู้ใช้จะเข้าใจได้ง่ายว่าเว็บเราเกี่ยวข้องกับอะไร
หลายคนไม่เคยให้ความสนใจกับ Favicon เลยแล้วทำไม Favicon จึงสำคัญเพราะว่าในปัจจุบันการค้นหาทั้งหมดเกิดขึ้นบนโทรศัพท์มือถือและ Favicon ถูกแสดงไว้บนผลการค้นหาในมือถือ ดังนั้น Favicon ที่ดี เด่นชัด จะช่วยเพิ่มความสนใจให้กับผู้ค้นหาซึ่งอย่างน้อยสามารถช่วยเพิ่มจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ได้ถึง 2% ซึ่งถือว่าเยอะมากๆ
จงสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์ด้วยเนื้อหาที่มีประโยชน์และตรงตามความต้องการของผู้ที่กดเข้ามายังเว็บไซต์ของเราตรงตามคีย์เวิร์ด โดยปกติแล้วการค้นหาข้อมูลบนกูเกิลหากยังไม่เจอข้อมูลที่ผู้ใช้งานต้องการ ผู้ใช้งานนั้นจะทำการค้นหาและเข้าเว็บอื่นต่อๆ ไปดังนั้นหากเว็บไซต์ของเราตอบโจทย์ของผู้ใช้งานได้ การเข้ามาใช้งานซ้ำจะเกิดขึ้นและไม่ว่าเว็บของคุณจะอยู่อันดับอะไรผู้ใช้งานก็จะเลือกเข้าเว็บไซต์ของคุณเป็นอันดับแรกเสมอ ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดด้วยเนื้อหาที่มีประโยชน์แล้วคุณจะค้นพบความสำเร็จที่ต้องการ
พูดง่ายๆก็คือ SEO สายดำ คือการโกง ส่วน SEO สายขาว คือการทำ SEO ที่ถูกต้องตามหลักของเว็บ Search Engine นั่นเอง ซึ่ง SEO สายขาวขั้นตอนการทำได้กล่าวไว้แล้วข้างต้นนั่นเอง ส่วนการทำ SEO สายดำ หรือสาย Dark นั้นขั้นตอนก็ไม่ยากเช่น การซื้อ link, การทำ spam keyword, การทำเขียน script ไปแป๊บไว้ที่เว็บอื่นให้ redirect มายังเว็บของเรา เป็นต้น ซึ่งวิธีการเหล่านี้ล้วนผิกกฏและเป็นข้อห้ามในการทำ SEO